กล้องส่องทางไกลหรือกล้องที่มีไว้สำหรับดูดาว เป็นเครื่องไม้เครื่องมือหรือวัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของนักดาราศาสตร์ และก็การแย้งอย่างเอาจริงเอาจังในหัวข้อปัญหาที่ว่า “คนใดเป็นคนแรกที่นำกล้องส่องทางไกลมาสังเกตการณ์ในทางดาราศาสตร์" นั้นได้เกิดมาตรงเวลาหลายศตวรรษแล้ว แล้วก็จากหลักฐานที่มีอยู่ได้บอกให้พวกเรารู้ดีว่าเลนส์ที่ทำมาจากแก้วได้ถูกผลิตขึ้นเมื่อราวๆปี คริสต์ศักราช1350

รูปที่ 1 ฮันซ์ ลิปเปอร์ฮาย (ซ้ายมือ) และซาชาเรียส แจนเซน (ขวามือ) ซึ่งจากหลักฐานที่มีอยู่เชื่อกันว่าทั้งสองคนต่างเป็นผู้ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์กล้องแรก

จากบันทึกในจดหมายซึ่งเขียนขึ้นช่วงวันที่ 25 เดือนกันยายน คริสต์ศักราช1608 โดยฮันซ์ลิปเปอร์ฮาย(Hans Lipperhey : คริสต์ศักราช1570-1619) ได้เอ่ยถึงประดิษฐกรรมของเขาซึ่งสามารถขยายรูปได้ มีเนื้อความตอนหนึ่งในจดหมายได้เขียนไว้ว่า “พวกเราสามารถเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ระยะไกลมากมายๆได้ ถ้าเกิดทำให้มันมาปรากฏอยู่ใกล้ๆได้ด้วยการมองสิ่งนั้นผ่านแก้ว หรือเลนส์ที่เขาประดิษฐ์ขึ้น" ลิปเปอร์ฮาย หรือที่รู้จักกันในชื่อ ลิปเปอร์เช่ย์ (Lippershey) ชาวเยอรมัน มีอาชีพทำแว่นอยู่ที่ฮอลล์แลนด์ ufabet รวมทั้งตอนวันที่ 2 เดือนตุลาคม คริสต์ศักราช1608 เขาได้ขอจดสิทธิบัตรกล้องส่องทางไกลซึ่งเป็นประดิษฐกรรมใหม่ กลับถูกไม่ยอมรับ และก็ถัดมาข่าวสารเกี่ยวกับประดิษฐกรรมของเขานี้ก็ได้แพร่ขยายไปทั่วยุโรป หากแม้คราวหลังแนวความคิดของลิปเปอร์ฮายจะถูกคนทั่วๆไปใช้ประโยชน์ถือสิทธิ์เป็นผู้คิดค้นกล้องส่องทางไกลก็ตามแม้กระนั้น ในปัจจุบันนี้แนวความคิดของลิปเปอร์ฮายก็ได้รับการรับรองว่าเป็นบันทึกแรกของการออกแบบกล้องส่องทางไกลอย่างแท้จริง

กดาราศาสตร์ผู้ดีอังกฤษ นามว่า โทมาส ฮาร์เรียต (Thomas Harriot : คริสต์ศักราช1560-1621) เป็นผู้เขียนแผนที่ในภาควิชาตรวจของ เซอร์ วอลเตอร์ เรเล่ย์ (Sir Walter Raleigh) มีความน่าจะเป็นไปได้ว่าเขาบางทีอาจเป็นคนแรกที่นำกล้องส่องทางไกลมาใช้ในงานทางดาราศาสตร์ ถึงแม้เขาจะไม่มีชื่อเสียงของคนทั่วๆไป แม้กระนั้นการศึกษาและทำการค้นพบของเขาหลายสิ่งหลายอย่างดูเหมือนล้ำหน้ามากมายในยุคนั้น มีงานชิ้นหนึ่งซึ่งอ้างโดย แวนเฮลเดน (Van Helden, 1995)กล่าวว่าในคืนวันที่ 26เดือนกรกฎาคม คริสต์ศักราช1609 ฮาร์เรียตได้สเก็ตภาพของพระจันทร์ที่สังเกตการณ์ได้จากกล้องส่องทางไกล ก่อนหน้าที่กาลิเลโอ กาลิเลอี(Galileo Galilei : คริสต์ศักราช1564-1642)นักดาราศาสตร์ชาวอีตาลีทำเป็นเวลานับเป็นเวลาหลายเดือน

ในช่วงเดียวกันนั้น กาลิเลโอกลับได้รับการพินิจให้เป็นเลิศในผู้ค้นพบดาราศาสตร์ยุดใหม่ ถึงแม้ฮาร์เรียตจะส่งผลงานด้านดาราศาสตร์ภาคสังเกตการณ์จำนวนมากก็ตาม ถัดมาในฤดูร้อนของปี คริสต์ศักราช1609กาลิเลโอได้ประดิษฐ์กล้องส่องทางไกลของเขาเองขึ้นมารวมทั้งประยุกต์ใช้สังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ โดยได้ตั้งกล้องถ่ายภาพในที่ชุมชน และก็ให้โอกาสให้สามัญชนรอบๆนั้นได้ดูด้วยเป็นครั้งแรก ตอนวันที่ 25ส.ค. คริสต์ศักราช1609 นี่เป็นครั้งแรกที่มีการจัดงานกิจกรรมทางดาราศาสตร์ในที่ส่วนรวม รวมทั้งยังเป็นครั้งแรกที่มีเอกสารชี้แจงการใช้กล้องส่องทางไกลอย่างละเอียดลออ

ในตอนต.ค. คริสต์ศักราช1609 กาลิเลโอได้ปรับปรุงกล้องส่องทางไกลจนกระทั่งมีกำลังขยายถึง 20 เท่า แล้วก็ด้วยกล้องส่องทางไกลดังที่กล่าวถึงมาแล้ว ทำให้กาลิเลโอสามรถยนต์สังเกตการณ์ผิวพระจันทร์แล้วก็ศึกษาและทำการค้นพบบริวารที่ใหญ่ที่สุดของดาวพฤหัสบดีปริมาณ 4 ดวง ยิ่งไปกว่านี้กาลิเลโอยังได้เล่าเรียนจุดมืดบนพระอาทิตย์แล้วก็ดฤถีของดาวศุกร์ผ่านกล้องส่องทางไกลดังที่กล่าวถึงมาแล้วด้วย ข้อมูลทางดาราศาสตร์ทั้งหมดทั้งปวงของกาลิเลโอที่ได้จากการสังเกต การณ์ ufabet ได้ทำให้แนวคิดเกี่ยวกับโลกแล้วก็เอกภพแปรไปจากสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง แล้วก็การเปลี่ยนแปลงทางดาราศาสตร์ก็เลยเกิดขึ้นจากนั้นเป็นต้นมา

เมื่อปี คริสต์ศักราช1610 มีนักดาราศาสตร์ชาวเยอรมันชื่อ โจฮานเนส เคปเลอร์ (Johannes Kepler : คริสต์ศักราช1571-1630)ได้ศึกษาเล่าเรียนการใช้กล้องส่องทางไกลของกาลิเลโอ และก็ประยุกต์ใช้ในงานทางดาราศาสตร์อย่างเอาจริงเอาจัง ถัดมาเขาได้ใช้กล้องส่องทางไกลเรียนรู้พระจันทร์ 4 ดวงของดาวพฤหัสบดีดังที่กาลิเลโอเคยเรียนรู้ ufabet รวมทั้งยังได้เผยแพร่งานทางด้านทฤษฎีของกล้องส่องทางไกลในปี คริสต์ศักราช1611ยิ่งไปกว่านี้เคปเปลอร์ยังสามารถชี้แจงระบบสุริยะด้วยคณิตก้าวหน้าพอๆกับที่ใช้ข้อมูลที่ได้รับมาจากการสังเกตการณ์ด้วย

จากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งปวงแล้วก็จากข้อมูลในเวลานี้ความเป็นจริงเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดของกล้องส่องทางไกลก็ยังคงเป็นปัญหาอยู่แล้วก็การขัดแย้งในเรื่องดังกล่าวมาแล้วข้างต้นก็ยังไม่มีบทสรุป ufabet