ผลà¸�ารค้นหารูปภาพสำหรับ à¹�à¸�ล้งà¸
UFABET PRESENT : แกล้งดิน

ปลูกอะไรก็ปลูกไม่ขึ้น เป็นคนอื่นคงทิ้งไปแล้ว

"...พวกเราเคยมาโคกก้อนอิฐ-โคกใน มาดูเขาชี้ที่ตรงนั้นๆเขาทำแต่เขาได้เพียงแต่ 5ถัง 10 ถัง แต่ว่าเวลานี้ได้ขึ้นไปถึง 40-45 ถัง ก็ใช้ได้แล้ว ถัดไปรับประทานจะไม่เปรี้ยวแล้ว เนื่องจากทำให้เปรี้ยวสุดกำลังแล้ว ufabet โดยที่ขุดอะไรๆทำให้เปรี้ยวและก็ระบาย คิดว่านับวันเขาจะ อันนี้สิเป็นชัยที่ดีใจมากที่ใช้งานได้แล้ว ประชาชนเขาดีแล้วขึ้น เมื่อก่อนประชาชนเขาจำต้องซื้อข้าว ในช่วงเวลานี้เขามีข้าวบางทีอาจจะขายได้…" (พระราชกระแสรับสั่ง, 3 ก.ย. พุทธศักราช 2535)

pic-soil-open.jpg


pic-soil-head1.png

นับจากปีพุทธศักราช 2516 เป็นต้นมา ท่านได้เดินทางไปไปแปรพระราชฐานแล้วก็ทรงเยี่ยมประชาชนในภาคใต้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ทรงรู้ดีว่าพลเมืองในพื้นที่แถบ จังหวัดจังหวัดนราธิวาส และก็จังหวัดใกล้เคียง เผชิญกับปัญหาขาดที่ดินสำหรับประกอบอาชีพเพราะว่าพื้นที่อาศัยเป็นดินพรุที่มีน้ำขัง ซึ่งเมื่อจำต้องทำไร่ ก็ชอบระบายน้ำออกกระทั่งหมด ดินก็เลยเปลี่ยนสภาพเป็นดินกรดจัด ufabet เพราะสารไพไรท์ (Pyrite) ที่มีอยู่ในดินข้างล่างทำปฏิกริยากับออกสิเจนกลางอากาศแล้วปล่อยกรดกำมะถันออกมามากมายจนกระทั่งจุดที่เกิดอันตรายต่อพืชที่ปลูก รวมทั้งทำให้ไม่เป็นผลผลิต พื้นที่พลเมืองเคยใช้เพาะปลูกข้าวหลายที่ก็เลยเปลี่ยนภาวะเป็นทุ่งนาร้าง

pic-soil-head2.png

หากว่าขั้นตอนการเปลี่ยนทางเคมีที่ทำให้ดินกรดจะมีการเล่าเรียนมาบ้างแล้ว แต่ว่าก็ยังไม่ข้อมูลไม่เท่าไรนัก ก็เลยทรงพระได้โปรดโปรดเกล้าฯ ให้ค้นคว้าศึกษาค้นคว้าประเด็นนี้ในศูนย์ทดสอบที่จะก่อตั้งใหม่ โดยในปี พุทธศักราช 2522 มีปฐมความคิดให้ “หาน้ำ"เพื่อจัดเตรียมก่อตั้งศูนย์ทดสอบดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ด้วยการจัดสร้าง “อ่างเก็บน้ำใกล้บ้าน" ที่ ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอ เมือง จังหวัด จังหวัดนราธิวาส ขนาดปริมาตร2,850,000 ลูกบาศก์เมตร และก็“อ่างเก็บน้ำเขาสำนัก" ขนาดปริมาตร 140,000 ลูกบาศก์เมตร ufabet และก็ให้พิเคราะห์ดูดน้ำจากลำคลองบางนรามาเพิ่มเติมอ่างเก็บน้ำใกล้บ้าน เพื่อนำน้ำมาใช้ในกิจกรรมของศูนย์ทดสอบ ซึ่งถัดมาได้พระราชทานชื่อว่า “ศูนย์เรียนการพัฒนาพิกุลทองคำสาเหตุจากความคิด" ตั้งอยู่ระหว่างบ้านพิกุลทองคำและก็บ้านโคกสยา ไม่ไกลจากพระตำหนักขวาราชนิเวศน์เพื่อเล่าเรียน ทดสอบ แล้วก็หาวิธีการปรับปรุงแก้ไขดินกรดให้สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้

pic-soil-head3.png

“...ให้มีการทดลองทำดินให้เปรี้ยวจัด โดยการระบายน้ำให้แห้งรวมทั้งเรียนแนวทางการแก้ดินกรด เพื่อนำผลไปจัดการกับปัญหาดินกรดให้แก่พลเมืองที่มีปัญหาในประเด็นนี้ในเขตจังหวัดนราธิวาส โดยให้ทำโครงงานเรียนรู้ทดสอบในระบุ 2 ปี รวมทั้งพืชสำนักงานทดสอบปลูกควรจะเป็นข้าว..." (พระราชกระแสรับสั่ง, วันที่ 16 ก.ย.พุทธศักราช 2527)


แนวความคิด “แกล้งดินให้เปรี้ยว" นั้น มาจากการเลียนแบบภาวะธรรมชาติของพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งในแต่ละปีจะมีหน้าแล้ง 4 เดือน หน้าฝน 8 เดือน การทดสอบใช้แนวทางร่นช่วงเวลาตอนแล้งแล้วก็ตอนฝนให้สั้นลง โดยปลดปล่อยให้ดินแห้ง 1 เดือน แล้วก็ขังน้ำให้ดินแฉะนาน 2 เดือน ปีหนึ่งก็เลยมีสภาวะดินแห้งแล้วก็ดินแฉะ 4 รอบ เสมือนมีหน้าแล้งสลับหน้าฝนปีละ 4 ครั้ง


เมื่อดินถูกทำให้แห้งรวมทั้งแฉะสลับกันไป ก็จะเป็นการรีบปฏิกิริยาทางเคมี ufabet กระตุ้นให้สารไพไรท์ในดินทำปฏิกิริยากับออกสิเจนกลางอากาศ และก็ปล่อยกรดกำมะถันออกมามีผลดินเป็นกรดจัดกระทั่ง "เปรี้ยวเต็มที่" จนถึงถึงจุดที่พืชไม่อาจจะเติบโตได้แล้วแล้วต่อจากนั้น ท่านก็เลยมีพูดให้คณะทำงานค้นหาแนวทางการปรับแต่งดินดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วให้สามารถปลูกพืชได้


“พิกุลทองคำเป็นบ้านของพวกเรา พวกเราจะทำอะไรก็ได้ ถ้าหากที่ตรงนี้ปรับแก้ได้ ที่ใดก็ปรับปรุงแก้ไขได้"

พระราชกระแสรับสั่ง, พระราชทานแก่ดร. สุกใส วิจารสรณ์ แล้วก็คณะทำงานตอบสนองความคิด แผนการแกล้งดิน

pic-soil-head4.png

การทำงานเรียนรู้ทดสอบในศูนย์เรียนรู้การพัฒนาพิกุลทองคำฯ ได้มีการปฏิบัติการในตอนต่างๆตามแนวความคิดดังต่อไปนี้


ตอนที่ 1

เรียนรู้ความเคลื่อนไหวทางเคมีของดิน โดยแบ่งแยกพื้นที่เป็นแปลงต่างๆเพื่อเปรียบระหว่างดินที่ปล่อยทิ้งเอาไว้ตามธรรมชาติ กับดินที่ทำให้แห้งและก็แฉะสลับกันโดยกรรมวิธีการดูดน้ำเข้า-ออกพบว่ากระบวนการทำดินให้แห้งแล้วก็แฉะสลับกัน ดินจะเป็นกรดจัดร้ายแรง แล้วก็ส่งผลต่อการเติบโตของพืช ข้าวสามารถเติบโตได้ แม้กระนั้นได้ผลผลิตต่ำ


ตอนที่ 2

ผันแปรช่วงดินแห้งรวมทั้งแฉะต่างกันในแต่ละแปลง เพื่อศึกษาเล่าเรียนความเคลื่อนไหวความเป็นกรดของดิน รวมทั้งทดสอบเวียนน้ำในแปลง เพื่อไม่ให้มีการชำระล้างดิน พบว่าการปลดปล่อยให้ดินแห้งยาวนานมากขึ้น ความเป็นกรดจะร้ายแรงมากยิ่งกว่าการใช้น้ำแช่ขังดินนานๆรวมทั้งการให้น้ำเวียนโดยไม่มีการระบายออก จะก่อให้ความเป็นกรดรวมทั้งพิษสะสมในดินมากเพิ่มขึ้น


ตอนที่ 3

ภายหลังจาก “แกล้งดิน" กระทั่งเป็นกรดจัดร้ายแรงและไม่สามารถปลูกพืชเศรษฐกิจได้แล้ว ก็เลยปฏิบัติการเรียนถึงกระบวนการแก้ไขดินกรดด้วยแนวทางต่างๆดังเช่นว่า ใช้น้ำล้างความเป็นกรด ใช้หินปูนฝุ่นผง ufabet และก็ใช้น้ำล้างพร้อมกันกับการใช้หินปูนฝุ่นผง รวมทั้งการปรับแก้ดินเพื่อปลูกพืชไร่ รวมทั้งชูร่องปลูกไม้ผล พบว่าการใช้น้ำล้างดินโดยขังน้ำไว้นาน 4 อาทิตย์แล้วระบายออก พร้อมกันกับการใช้หินปูนฝุ่นผงในจำนวนบางส่วนจะสามารถเปลี่ยนแปลงดินกรดจัดได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับแนวทางการใช้น้ำล้างเพียงอย่างเดียวก็ได้ผลดีอย่างเดียวกัน แต่ว่าจำต้องใช้เวลานานกว่า


ถัดมาในปีพุทธศักราช 2536 ศูนย์ศึกษาเล่าเรียนการพัฒนาพิกุลทองคำฯ ได้ทำคู่มือการปรับปรุงแก้ไขดินกรดจัด และก็นำผลวิจัยนี้ขยายไปสู่พื้นที่ที่มีปัญหาต่างๆทั่วราชอาณาจักร

pic-soil-head5.png

พุทธศักราช 2533

แผนการปรับปรุงหมู่บ้านโคกก้อนอิฐแล้วก็บ้านโคกใน อำเภอ ตากใบ จังหวัด จังหวัดนราธิวาส

พื้นที่ที่แรกที่นำผลวิจัยจากแผนการแกล้งดินไปขยายผลการพัฒนาหมายถึงแผนการปรับปรุงหมู่บ้านโคกก้อนอิฐและก็บ้านโคกใน อำเภอตากใบ จังหวัดจังหวัดนราธิวาส บนพื้นที่ 30,065 ไร่ โดยภายหลังจากนำองค์วิชาความรู้ที่ได้จากการแผนการมาปรับใช้ในที่ดินของพลเมือง ufabet ปรากฎว่า ประชาชนสามารถปลูกข้าวเห็นผลผลิตมากขึ้น จากที่เคยได้ข้าว 50-100 โลต่อไร่ ตอนนี้มากขึ้นไปถึง 400-500 กิโลต่อไร่ มีข้าวพอกินรวมทั้งเหลือขาย



พุทธศักราช 2535

แผนการปรับปรุงแถบที่ลุ่มปากพนัง สาเหตุจากความคิด จังหวัด นครศรีธรรมราช รวมทั้งพื้นที่ส่วนหนึ่งของ จังหวัด จังหวัดพัทลุง รวมทั้ง จังหวัด จังหวัดสงขลา

นอกเหนือจากการถ่ายทอดเทคโนโลยีการปรับปรุงแก้ไขดินกรดตามแนวความคิดแกล้งดินแก่เกษตรกรในพื้นที่ ยังมีการจัดระดับผิวหน้าดินให้เอียง พอที่จะมีผลให้น้ำไหลสู่คลองที่เอาไว้สำหรับระบายน้ำ เพื่อเก็บกักน้ำและก็ระบายน้ำออกได้ รวมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลดินเพื่อกำหนดแผนการใช้ที่ดินได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการจัดการเรื่องดิน น้ำ และก็พืชได้อย่างเหมาะควร


เมื่อดินเริ่มคืนความอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรที่เคยทอดทิ้งนาก็กลับมาใช้ประโยชน์ที่เพื่อปลูกข้าวอีกรอบ โดยตอนนี้เกษตรกรในพื้นที่ สามารถปลูกข้าวได้อีละ 2 ครั้ง จากเดิมที่เห็นผลผลิตข้าวเฉลี่ยที่ 150-350 โลต่อไร่ ตอนนี้สามารถเพิ่มผลิตผลข้าวประเภทเฉี้ยงจังหวัดพัทลุงได้ 530 โลต่อไร่ ส่วนจำพวกจังหวัดชัยนาท 1 สำเร็จผลิตอยู่ที่ 650 กิโลต่อไร่ นำมาซึ่งการทำให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ ufabet ที่สำคัญพื้นที่ทิ้งร้างมีปริมาณน้อยลง


พุทธศักราช 2535

แผนการปรับปรุงพื้นที่พรุแฆแฆ จังหวัดปัตตานี

ช่วยเหลือให้มีการทำไร่ทำนา โดยปลูกข้าวประเภทจังหวัดชัยนาท ข้าวชนิดแก่นจันทร์ข้าวประเภทเฉี้ยงจังหวัดพัทลุง ข้าวชนิดหอมสุพรรณ สำเร็จเป็นที่น่าพึงพอใจ เกษตรกรปลูกข้าวสำเร็จผลิตเฉลี่ย 580 กก.ต่อไร่ นอกเหนือจากการปลูกผัก พืชไร่ ไม้ผล และก็การเลี้ยงสัตว์


พุทธศักราช 2541

โครงงานเล่าเรียนทดสอบการจัดการกับปัญหาดินกรด สาเหตุจากความคิด อำเภอบ้านนา จังหวัด จังหวัดนครนายก

ด้วยพระราชปณิธานที่จะเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใน จังหวัด จังหวัดนครนายก จากพื้นที่ซึ่งเพาะปลูกมิได้ เป็นหลักที่สมบูรณ์บริบูรณ์ในการเพาะปลูก ก็เลยมีความคิดให้สร้างศูนย์ศึกษาเล่าเรียนทดสอบการจัดการกับปัญหาดินกรด พร้อมพระราชทานหนทางให้นำน้ำจาก เขื่อนขุนด่านกำแพงชลมาใช้ในโครงงานฯ ตามแนวความคิดที่ว่า “ลดน้ำยามท่วมเพิ่มเติมน้ำยามแล้ง แปลงดินยามเปรี้ยว"

1.jpg

สิทธิบัตรการประดิษฐ์เลขที่ 22637 เรื่อง ขั้นตอนปรับแต่งภาวะดินกรดเพื่อเหมาะสมแก่การเพาะปลูก (โครงงานแกล้งดิน) มอบให้การรับลงทะเบียนสิทธิบัตรตอนวันที่ 5 เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2550


Acid Sulfate Soil มีชื่อด้านวิชาการว่า “ดินกรดจัด" หรือ “ดินเปรี้ยวกำมะถัน" เป็นดินที่เริ่มจะมี หรือเคยมี หรือมีลัษณะทิศทางว่ามีกรดกำมะถันอยู่ในชั้นดิน ลักษณะทั่วไปดินข้างบนชอบเป็นดินเหนียวสีเทาไปจนกระทั่งสีคล้ำ ส่วนดินด้านล่างที่ระดับความลึกราว 1-1.5 เมตรมีสีเทารวมทั้งมีสารประกอบจาโรไซต์ (jarosite) เป็นจุดสีเหลืองฟางข้าวกลาดเกลื่อน น้ำบาดาลเป็นน้ำเปรี้ยว ใส ufabet รวมทั้งมีรสฝาด พื้นที่ที่เจอดินรูปแบบนี้ มักเป็นหลักที่ในรอบๆที่ลุ่มมีนํ้าแช่ขังปีละนับเป็นเวลาหลายเดือนในช่วงฤดูฝน ดังเช่นว่า พื้นที่ดินพรุ(Peat soil) หรือ “ดินอินทรีย์ (Organic soil)" ซึ่งมีการสะสมของอินทรีย์วัตถุ ก็เลยมักมีสารประกอบไพไรท์ (pyrite) ผสมอยู่มากมาย เมื่อระบายน้ำหรือทำให้ดินแห้งลึกกว่า 80เซนติเมตร ไพไรท์จะสัมผัสกับอากาศแล้วก็เปลี่ยนสภาพเป็นกรดกำมะถัน จนกระทั่งเป็นปัญหาในการเจริญวัยของพืช

soil.jpg


พืชทนเปรี้ยว

พร้อมกันกับการหาวิธีแก้ไขดินกรด เป็นการหาพืชพันธุ์ที่ปลูกได้ประสิทธิภาพที่ดีบนดินลักษณะดังที่กล่าวมาแล้ว ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาพิกุลทองคำฯ ได้ทดสอบปลูกพืชเศรษฐกิจนานาประการสายพันธุ์ จนถึงศึกษาค้นพบพืชพันธุ์ที่มีคุณลักษณะทนต่อดินที่มีความเป็นกรด อาทิเช่น

  • ข้าวทนเปรี้ยว : จากประเภทข้าวมากยิ่งกว่า 1,000 สายพันธุ์เอามาเล่าเรียนเลือกจำพวกได้จำพวกข้าวทนดินกรด 10 สายพันธุ์ อาทิเช่น ข้าวลูกแดง ข้าวอัลซัมดูลละห์ ข้าวเขียว ข้าวดอนทราย ข้าวรวงยาว ข้าวขาว ข้าวช่อจำปา ufabet ข้าวช้องนาง ข้าวขาวน้อย แล้วก็ข้าวสี่รวง
  • ไม้ผลทนเปรี้ยว : มะม่วง, ขนุน, กระท้อน, มะกอกน้ำ, มะขาม, ฝรั่ง, ละลอด, มะดัน, ไผ่ไต้หวัน
  • ไม้โตเร็วทนเปรี้ยว (ขึ้นเจริญโดยไม่ต้องปรับปรุงแก้ไขดิน) : สนปฎิพัทธ์, ยูคาลิปตัส,กระถินเทพา, สะเดา, หว้า, มะฮอกกานี เสม็ด

หลักการจัดการดินเปรี้ยว


การควบคุมระดับน้ำใต้ดิน

จะต้องไม่ให้ต่ำลงยิ่งกว่า 1 เมตร เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้ดินด้านล่างแห้งหรือสัมผัสกับออกสิเจน ฉะนั้นก็เลยควรจะมีแหล่งน้ำจากระบบชลประทานเข้ามาช่วย

การปรับปรุงแก้ไขดิน

ให้ใช้น้ำล้างกรดให้ออกไปจากดิน แล้วก็ใช้อุปกรณ์ปูน ดังเช่น ปูนมาร์ล ปูนกาบหอยบด หรือหินปูนฝุ่นผง ปรับแก้ความเป็นกรดของดินรวมทั้งน้ำ อัตราที่ใส่เปลี่ยนสุดแต่จำพวกของพืชที่ปลูก แล้วก็ความรุ่นแรงของกรดในดิน โดยธรรมดาอัตราที่ใช้อยู่ระหว่าง 1-3 ตันต่อไร่

การปรับภาวะพื้นที่

  • การปรับระดับผิวหน้าดิน โดยปรับระดับผิวหน้าดินให้มีความลาดเอียง เพื่อน้ำไหลไปสู่คลองที่มีไว้ระบายน้ำ ตกแต่งแปลงที่นาและก็คันดินใหม่ เพื่อเก็บกักน้ำและก็ระบายน้ำออกไปได้
  • การชูร่องปลูกพืช สำหรับพืชไร่ ผัก ไม้ผล หรือไม้ยืนต้นที่ได้ผลทดแทนสูง หากให้เห็นผลควรมีแหล่งน้ำชลประทานเพื่อขังรวมทั้งระบายน้ำได้เมื่อน้ำในร่องเป็นกรดจัดการชูร่องปลูกไม้ยืนต้นหรือไม้ผล ufabet จำเป็นต้องนึกถึงการเกิดน้ำหลากในพื้นที่นั้น แม้มีแนวโน้มเสี่ยงสูงก็ไม่ควรกระทำ หรือบางทีอาจชูร่องแบบเตี้ยๆพืชที่ปลูกกลายเป็นไม้ล้มลุกหรือผัก แล้วก็ควรจะปลูกเป็นพืชหมุนเวียนอาหารได้



ground-dirt.jpg
DID YOU KNOW ?
  • กาลครั้งหนึ่งในระหว่างที่เสด็จไปเยี่ยมพลเมืองในพื้นที่ที่ภาวะดินเป็นกรดมากมาย ทรงถามประชาชนผู้หนึ่งว่า "ดินแถวนี้เปรี้ยวไหม" พลเมืองผู้นั้นก็ทำท่าใบหน้าเรียบเฉยเมยแล้วกราบบังคมทูลตอบท่านแบบตรงไปตรงมาว่า "ไม่รู้จัก ไม่เคยรับประทาน"
  • ตามที่เป็นจริงแล้ว เมืองไทยมีพื้นที่ที่เหมาะสมกับวิธีการทำเกษตรเพียงแค่ 50เปอร์เซ็นต์แค่นั้น เพราะเหตุว่าพื้นที่อีก 27 เปอร์เซ็นต์เป็นหลักที่เทือกเขาสูงที่ไม่คุ้มทุนปรับปรุงเพื่อทำการกสิกรรม และก็ 3 เปอร์เซ็นต์เป็นหลักที่ป่าชายเลน ซึ่งผู้ชำนาญด้านการพัฒนาที่ดินเห็นว่าน่าจะรักษาไว้เป็นแถวกันชน ส่วนพื้นที่ที่เหลืออีก 20เปอร์เซ็นต์นั้นเป็นที่ดินที่คือปัญหา ufabet ดังเช่นว่า ดินเค็ม ดินปนทรายจัด ดินกรดจัด อื่นๆอีกมากมาย โครงงานในความคิดต่างๆที่เล่าเรียนหาแนวทางแก้ปัญหาเกี่ยวกับดิน ก็เลยเป็นการฟื้นฟูพื้นที่พวกนี้ไม่ให้เสียเปล่าแล้วก็สร้างผลดีให้แก่ประเทศได้มาก ตามที่ทรงมีบอกขณะเดินทางไปพิพิธภัณฑสถานเกษตรแห่งชาติว่า “สมเด็จพระเทวดารัตนฯเคยถามคำถามว่า เพราะเหตุใดก็เลยทำเฉพาะดินยากๆหรือทำแต่ว่าดินปัญหา ก็ชี้แจงให้ฟังว่า ดินยากๆนั้นปลอดคนทำ ก็เลยจำเป็นต้องทำ ถ้าเกิดทำเป็นก็จะมีสาระ คราวก่อนเขาไม่รู้เรื่อง แม้กระนั้นขณะนี้เขารู้และเข้าใจดีแล้ว ดินดีๆจะไม่ทำ" (พระราชกระแสรับสั่ง, 21 พ.ค. พุทธศักราช 2545)
  • เป้าประสงค์อีกประการของการตั้งศูนย์ปรับปรุงพิกุลทองคำฯ เว้นเสียแต่เพื่อเล่าเรียนแนวทางปรับปรุงแก้ไขดินกรดแล้ว ยังรวมทั้งการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยป่าพรุซึ่งเป็นหลักที่ที่มีความมากมายหลายทางชีวภาพ และก็เป็นแหล่งรวมกรรมพันธุ์ของพันธุ์พืชรวมทั้งสัตว์หายาก รวมทั้งการวางเป้าหมายจัดเขตการใช้ที่ดินว่ารอบๆใดบ้างที่ควรจะสงวน รอบๆใดควรจะปรับปรุงปรับแก้ ทำให้พื้นที่ป่าพรุใน จังหวัด จังหวัดนราธิวาสพื้นที่ 80,000 ไร่ เป็นป่าพรุที่สมบูรณ์บริบูรณ์ที่ท้ายที่สุดที่ยังเหลืออยู่ของเมืองไทย
  • ด้วยพระวิริยะอุตสาหะสำหรับเพื่อการปฏิบัติพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดินมาอย่างสม่ำเสมอแล้วก็ช้านาน กระทั่งปรากฏผลสัมฤทธิ์เป็นที่กระจ่างอย่างมากมายทั้งยังในประเทศรวมทั้งนานาประเทศ หน่วยงานของกินรวมทั้งการกสิกรรมที่ยูเอ็น (FAO) ก็เลยได้กำหนดให้วันที่ 5 ธ.ค.ของทุกปีเป็น "วันดินโลก" (World Soil Day) เพื่อรณรงค์ให้ทั้งโลกตระหนักถึงจุดสำคัญของทรัพยากรดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะเหตุเรื่องความยั่งยืนทางของกินของโลกในอนาคต

“...เมื่อครั้งท่านไปเยี่ยมประชาชนที่ตำบลโคกก้อนอิฐ โคกใน โคกข้าแว อำเภอตากใบพลเมืองก็มาเฝ้า ผมสังเกตดูท่านทรงไถ่ถามสุขทุกข์ มีใบหน้าที่กลัดกลุ้มมากมายประชาชนกราบบังคมทูลหัวแข็งจนถึง เพราะเหตุว่าปลูกข้าวไม่ได้เรื่อง ดินกรด ได้ข้าว 5ถัง 10 ถังต่อไร่ น้อยเกินไปรับประทาน วัวควายแพะแกะก็เจ็บป่วย ต้นไม้ก็ไม่ได้ผลผักไม่มีรับประทานจำต้องไปซื้อที่โกลก ทรงตรัสให้ชลประทานเอาน้ำจากโครงงานมูโนะที่เป็นน้ำจืดชืดทำลำคลองส่งมาให้เขา แล้วทำคลองที่มีไว้ระบายน้ำเปรี้ยว จากพรุโต๊ะแดงออกไปทิ้งแม่น้ำโกลก ทิ้งสมุทรต่างหาก ท่านโปรดให้ปรับแต่งโดยการขุดลอกลำคลองแล้วมีประตูควบคุม อุทกภัยก็ระบายน้ำสบาย หากปีไหนแล้งก็กั้นน้ำไว้แล้วลำคลองชลประทานก็ส่งเข้าไปช่วย ในปีถัดมา ปี 2536 ในเวลานั้นผมได้เป็นอธิบดีแล้ว ท่านก็เสด็จอีกทีหนึ่ง ผมเคยทราบคำกล่าวว่าหมู่บ้านนี้อนาถามากมาย ufabet เอ๊ะมองเห็นความเคลื่อนไหวกระจ่าง บ้านใหม่ๆขึ้นหลายข้างหลัง ต้นไม้ก็สวย ข้าวเขียวชอุ่ม ผมสังเกตดูพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านตรัสถามสารทุกข์สุขดิบ หน้าท่านร่าเริงแจ่มใส ประชาชนกราบบังคมทูลว่าในขณะนี้ตั้งแต่แผนการของท่านมาช่วย สบายแล้ว ข้าวที่เคยได้ 5 ถัง 10 ถัง ในเวลานี้ 50-60 ถัง เหลือขาย ผลหมากรากไม้ก็ได้ผลดี สัตว์เลี้ยงก็ไม่ป่วยไข้ ขณะนี้อำเภอโกลกจะต้องเอารถยนต์มาซื้อผักจากเขาสบายแล้ว ท่านประทับนั่ง พลเมืองก็นั่ง ภาพที่ติดตาผมกระทั่งวันนี้ เป็นเพียงพอเสร็จแล้วท่านก็ทรงยืนขึ้น หันมาทางเรา ท่านแย้มพระสรวลอย่างมีความสุข ซึ่งเราไม่ค่อยได้มองเห็น บอก 'ฉันดีใจมาก' ทำให้ผมรำลึกถึงว่า ความทุกข์ทรมานของราษฎร์ก็คือความทุกข์ใจของท่าน ท่านบากบั่นปรับแก้ ช่วยทำให้เขาพ้นจากความแร้นแค้น เมื่อบรรลุเป้าหมายท่านจะทรงเป็นสุข..."


(นายความเจริญรุ่งเรือง วัฒนายากร อดีตกาลองคมนตรีแล้วก็อธิบดีกรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ufabet ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ที่นี่หมอชิต" แพร่ภาพช่วงวันที่ 4ธ.ค. พุทธศักราช 2554)