6d9b98df93f5f88e1244b8e68cac9b0d.jpg
UFABET PRESENT : PENGUIN BOOKS


“หนังสือเพนกวินที่ได้รับความนิยมนั้นราคาเพียงสองปอนด์ในสหราชอาณาจักร และพิมพ์ด้วยกระดาษรีไซเคิล"

ท่ามกลางการแข่งขันชิงชัยดุเด็ดเผ็ดมันสำหรับการทำหนังสือให้เปลี่ยนเป็นสุนทรียภาพเพื่อตอบปัญหาตลาดหนังสือที่หันเข้าพบการเป็นของสะสม ซึ่งบ่อยมันหมายความว่ากระดาษครึ้มๆแล้วก็ราคาปกที่พุ่งสูงจนถึงน่าตกใจ ufabet คอมเมนต์ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจPopular Penguins ในปี 2010 บอกกับพวกเราว่า ถ้าหากแบรนด์แกร่งยืนยง ก็สามารถระบุคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ได้ด้วยตัวเอง


ตามความจริง เมื่อเวลาที่อัลเลน เลน (Allen Lane) ตั้งสถานที่พิมพ์ในปี 1935 นั้น สิ่งที่เขาทำก็คือส่งวรรณกรรมชั้นหนึ่งให้กับผู้คนในวงกว้าง ด้วยการจัดพิมพ์หนังสือปกอ่อนราคาไม่แพง


ก่อนหน้านั้น หนังสือปกอ่อนที่พิมพ์ด้วยกระดาษหยาบๆมีไว้สำหรับพิมพ์หนังสือบันเทิงที่มีกรุ๊ปนักอ่านเป็นชนชั้นแรงงานเป็นหลัก หนังสือที่ตั้งราคาขายไว้เพียงแต่ 6 เพนนีของเพนกวิน จีงถือได้ว่าเป็นการแปลงตลาดหนังสือของอังกฤษด้วยการนำเอารายละเอียดที่เคยพิมพ์ในแบบหนังสือปกแข็ง แล้วก็จำกัดอยู่แม้กระนั้นตลาดผู้มีอันจะกิน ไปสู่ผู้คนในวงกว้าง


มันได้รับการตอบกลับอย่างดีเยี่ยม อีกทั้งเป็นการเกิดที่พิสูจน์ความเชื่อถืออันเรียบง่ายของเลน ที่ไม่ได้ต่างอะไรจากความง่ายๆบนปกหนังสือของเขา


โน่นเป็น “หนังสือมีไว้สำหรับอ่าน"


การเกิดของเพนกวิน ก็เลยเป็นไม่ได้แตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการอ่านของสังคมอังกฤษ

DM1294-2-1-22-10-1-01 (spotted).jpg

The Six-pence Intellectuals\

ถ้าจะถามคำถามว่าเงิน 6 เพนนีในปี 1935 มีค่าเท่าไร โน่นก็คงจะพอๆกับขนมปังแบบบามึงตต์ปริมาณ 2 แถว ไข่ 2 ฟองครึ่ง หรือยาสูบ 10 มวน


เมื่อมาถึงปี 2012 หนังสือปกอ่อนของเพนกวินขายที่ราคาต่ำสุด 3 ปอนด์ เงินปริมาณดังที่ได้กล่าวมาแล้วบางทีอาจซื้อขนมปังแบบบาเอ็งตต์จากเทสโก้เก๋ในอังกฤษได้ถึง 7แถวครึ่ง ไข่ 14 ฟอง หรือยาสูบ 7 มวนครึ่ง


โน่นบางทีอาจหมายความอย่างคร่าวๆว่าหนังสือปกอ่อนของเพนกวินราคาแพงแพงขึ้นเมื่อเทียบกับของกิน (คนอ่านจำต้องแลกเปลี่ยนขนมปังหรือไข่ในเยอะๆกว่าเพื่อซื้อหนังสือเพนกวิน) ส่วนยาสูบนั้นแพงแพงมากยิ่งขึ้นกว่า


มันบางทีอาจแพงขึ้นก็จริง แม้กระนั้นมันก็ยังหาซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าหนังสือมากมายในบ้านพวกเรา ทั้งๆที่ค่ายังชีพของคนประเทศอังกฤษสูงขึ้นยิ่งกว่าพวกเรานั่นแหละ


จำเป็นต้องไม่ลืมเลือนว่าข้อตกลงของการสร้างหนังสือราคาไม่แพงแบบที่เพนกวินทำเป็น ก็คือ มันจะต้องผลิตในจำนวนมาก


ก็เลยไม่แปลกที่มันจะเกิดขึ้นในสังคมอุดมสติปัญญาของอังกฤษ ที่หนังสือเปรียบเทียบได้กับผลิตภัณฑ์จำเป็นต้องที่ผู้คนจะยอมพลาดโอกาสสำหรับการซื้อขนมปัง 2แถวในปี 1935 แบบไม่ต้องคิดมาก


ขณะที่โลกาภิวัตน์รวมทั้งความชื่นชอบหนังสือเพนกวินทั้งโลก ทำให้สามารถผลิตออกมาทีละมากมายๆได้อย่างสบายเมื่อเวลาผ่านไป


จนกระทั่งจุดหนึ่งที่อาจจะบอกได้ว่า เพนกวินนั้นเป็นวัฒนธรรมในตัวมันเอง

7H4A8947.JPG

“การอ่านหนังสือที่มีโลโก้เพนกวินอยู่บนปก ทำให้อุ่นใจในระดับหนึ่ง"

คำบอกเล่าของแคทรีน แลดด์ บรรณารักษ์สาววัย 21 ปีคนอังกฤษ อาจจะไม่ผิดจากความรู้สึกของคนอ่านทั่วทั้งโลก


ไม่เพียงแค่ปกหนังสือที่งามอย่างเรียบง่าย ในความเป็นหนังสือเพนกวิน คนอ่านจะทราบได้ว่า ถ้าเป็นหนังสือภาษาต่างชาติ มันจะมีการแปลที่มีคุณภาพมากยิ่งกว่าของสถานที่พิมพ์คู่ปรปักษ์


เวลาที่คำพูดของวิคกี้ โอแทรก คุณครูสอนภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยโกลด์สมิธ บอกกับพวกเราว่าแบรนด์ที่ส่งคุณประโยชน์ให้กับผู้ใช้ จะมีโลโก้เป็นไม่มีความแตกต่างจากเครื่องหมายรับประกันคุณภาพ

“ตั้งแต่จำความได้ บทกวีหรือหนังสือนวนิยายเล่มโปรดของผมจะมีโลโก้เพนกวินอยู่บนนั้นเสมอ"
9780141045634.jpg

The Philosophy

นอกจากรายละเอียดที่แยกหนังสือเพนกวินออกมาจากหนังสือบันเทิงเริงรมย์ อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญก็คือการออกแบบ


หากแม้หนังสือปกสีส้มน่าจะเป็นภาพที่พวกเราจำสูงที่สุด ufabet แต่ว่าถ้าหากไล่เรียงกันจริงๆเพนกวินนั้นมีปกหนังสือที่เป็นลายเซ็นอยู่ไม่น้อย


เหมือนกับการเปลี่ยนปกสำหรับหนังสือเดียวกัน อย่าง Androcles and the Lion ของจอร์จ เบอร์ที่นาร์ด ชอว์ ที่แปลงปกมาถึง 6 รอบ


แม้กระนั้นที่แปลงเป็นของสะสมสำคัญ ก็น่าจะเป็นหนังสือปกอ่อนราคาไม่แพง ที่ดีไซน์อย่างเรียบง่าย ปริมาณ 10 ปก ที่พิมพ์ออกมาในปีแรก


เค้าหน้าของมันก็เป็นอย่างที่พวกเรารู้จักดี โน่นอาจเกิดขึ้นเนื่องจากงานวางแบบนี้เป็นมากกว่าความคลาสสิกไม่มีระยะเวลา


มันเรียบง่าย ถ้าเกิดก็เฉลี่ยวฉลาด ทรงประสิทธิภาพ แม้กระนั้นที่เหนือกว่าอะไรทั้งปวงมันเป็นความเฉลี่ยวฉลาดที่เป็นมิตรกับคนทั่วๆไป นี่จะไม่ใช่งานดีไซน์ชั้นยอดเยี่ยมได้เช่นไรกัน


ตามความจริง การพิมพ์หนังสือไม่ใช่เรื่องใหม่แกะกล่องสำหรับเลน ด้วยเหตุว่าก่อนหน้านั้น เขาดำเนินงานในตำแหน่งผู้อำนวยการของสถานที่พิมพ์โบดลีย์เฮด (Bodley Head)ซึ่งจัดตั้งโดยคุณลุงของเขามาก่อน


วันหนึ่งในปี 1934 ระหว่างนั่งคอยรถไฟแล้วก็อยากได้หาอะไรแก้เบื่อ สิ่งที่เลนหาได้ก็คือหนังสือนิยายในศตวรรษที่ 19 กับวารสารที่เต็มไปด้วยเรื่องราวก็อสสิป


บางทีอาจเพราะเหตุว่าความที่เขาอยู่ในอุตสาหกรรมหนังสือ สิ่งที่แน่ชัดขึ้นมาในความนึกคิดของเขาเวลานี้ก็คือ เขาอยากได้หนังสือประสิทธิภาพสูง ราคาต่ำ แล้วก็ที่สำคัญเป็นขนาดสบายต่อการนำพา ส่วนประกอบอีกทั้ง 3 อย่างที่สร้างให้กำเนิดสถานที่พิมพ์ที่ทุกคนหลงเสน่ห์


ถ้าเกิดพิจารณาให้ดีมันก็ไม่มีอะไรเกิดเรื่องใหม่ แต่ว่าส่วนประกอบของมันนั่นแหละคือเรื่องใหม่ในตนเอง ด้วยเหตุว่าหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กราติดอยู่ถูกนั้น มันไม่เคยมากับประสิทธิภาพในระดับที่เพนกวินทำ ไม่ว่าจะดูในทางรายละเอียด หรือการออกแบบ


นอกเหนือจากการเสาะหาต้นฉบับ งานสำคัญในวันที่เลนเริ่มสถานที่พิมพ์ ก็เลยเป็นการหาบรรณาธิการรวมทั้งดีไซน์เนอร์ที่เหมาะสมที่สุดในขณะนั้นด้วย


เขาอยากทำผลิตภัณฑ์ที่เยี่ยมที่สุดให้คนโดยส่วนใหญ่ที่สุดได้ใช้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่น่าจะเป็นความสุจริตใจต่อนักอ่าน รวมทั้งปรัชญาการสร้างแบรนด์อันกล้าแกร่ง ที่ไม่เพียงแค่ส่งเพนกวินให้เป็นสถานที่พิมพ์ขึ้นชั้น แต่ว่ามันยังเป็นทุนอันทรงอำนาจที่จะให้ดอกผลถัดมาอีกนับร้อยปี


โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ความคลาสสิกมีค่าขึ้นทุกๆวันอย่างในขณะนี้

45308a0155ac9a9172726ae05d61cc59.jpg

The Series

แม้ประสิทธิภาพ ราคา รวมทั้งขนาด เป็นส่วนประกอบสำคัญ 3 อย่างที่ทำให้เพนกวินเกิดขึ้น รวมทั้งแปลงเค้าหน้าอุตสาหกรรมหนังสือและก็การอ่าน ทั้งยังของสหราชอาณาจักรรวมทั้งของโลก โบนัสที่ทำให้เพนกวินเปลี่ยนเป็นธุรกิจระดับไอคอนที่ยังคงความคลาสสิกไม่มีระยะเวลา ก็น่าจะเป็นการออกหนังสือเป็นซีรีส์


ในขณะนี้ มันเป็นยุทธวิธีที่ใช้กันเป็นปกติ แม้กระนั้นไม่ใช่เวลาที่เลนเริ่มธุรกิจหนังสือของเขา


หากแม้เรื่องราวทั้งหมดทั้งปวงบางทีอาจฟังดูราวกับว่าแนวความคิดวิธีการทำธุรกิจแบบง่ายๆแต่ว่าตามความเป็นจริง ในวันที่การเริ่มต้น เพียงแค่การเลือกเฟ้นต้นฉบับชั้นหนึ่งมาพิมพ์ ก็เกิดเรื่องยิ่งนักไม่ใช่ย่อย


เพราะว่าความนึกคิดสำหรับเพื่อการพิมพ์วรรณกรรมเกรดเอในแบบหนังสือปกอ่อนราคาไม่แพง ก็คือความนึกคิดตื้นๆในสายตาผู้พิมพ์สมัยนั้น ไม่ค่อยมีคนใดกันแน่ต้องการขายลิขสิทธิ์ให้เขาเอามาเผยแพร่ สายส่งหรือร้านจำหน่ายหนังสือก็ดูเหมือนไม่ตื่นเต้นกับความคิดใหม่นี้เอาเสียเลย


เอาง่ายๆก็คือ เขาถูกคิดว่าเป็นหัวกบฎในแวดวงหนังสือที่ทุกคนหันหน้าหนี


สำหรับการขายหนังสือเล่มแรกหมายถึงPoet’s Pub ของอีริก ufabet ลิงค์ลเตอร์ (Eric Linklater) นั้น เขาจำต้องใช้โลโก้ของโบดลีย์เฮดบนปกหนังสือ ซึ่งง่ายดายเสียยิ่งกว่าสำหรับในการโปรโมตด้วยซ้ำ


เรื่องสนุกมีอยู่ว่า จะทำหนังสือราคาไม่แพงได้ เขาจะต้องบีบคั้นตนเองให้ขายได้ในจำนวนมาก แล้วก็ในขณะที่ไม่มีผู้แทนจำหน่ายรายใดพอใจนั้นเอง กลับกลายธุรกิจขายปลีกอย่างวูลเวิร์ธส์ (Woolworths) ที่ตกลงรับกระจัดกระจายผลิตภัณฑ์ให้เขาท้ายที่สุด


มันใช้เวลาไม่กี่วันเพียงแค่นั้นสำหรับการขายหนังสือล็อตแรกที่วูลเวิร์ธส์สั่งในปริมาณ600 เล่ม รวมทั้งยอดสั่งเพิ่มจากวูลเวิร์ธส์นี่เองที่ทำให้เลนสามารถซื้อลิขสิทธิ์การพิมพ์ซ้ำหนังสืออีก 9 ปก


โน่นรวมทั้ง A Farewell to Arms ของเอ้อร์เนสต์ เฮไม่งเวย์ Ariel ของอองเดร โมรัวส์แล้วก็ The Mysterious Affair at Styles ของอกาธา คริสตี้


จนถึงกำเนิดเป็นซีรีส์ 10 ปกแรก อันเป็นตำนานของเพนกวิน

THE FIRST TEN PENGUINS.jpg

จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ เพนกวินมีซีรีส์หนังสือในตำนานจำนวนมาก หลายซีรีส์ก็มีอัตลักษณ์หรือจนกระทั่งแบรนด์เป็นของตัวเองด้วย ไม่ว่าจะเป็น Penguin Classics, Penguin Modern Classics, Puffin ufabet (หนังสือสำหรับเด็ก), Penguin Great Ideas (ซีรีส์รวมหนังสือที่ไม่ใช่วรรณกรรม ในหมวดปรัชญา การบ้านการเมือง วิทยาศาสตร์ แล้วก็การทำศึก) ไปจนกระทั่ง Penguin Essentials ที่ผลิตออกมาทีแรกในปี 2011

The Power of Consistency

ถ้าเกิดการซื้อหนังสือสักเล่มหมายความว่าการใคร่ครวญจากชื่อหนังสือรวมทั้งผู้เขียนเพนกวินก็แปลงเกมที่ว่านั้น


จากเมื่อก่อนที่ชื่อสถานที่พิมพ์บางทีอาจไม่อยู่ในความพึงพอใจของผู้อ่าน (เสมือนหลายคราวที่พวกเราอ่านหนังสือโดยไม่รู้เรื่องว่าเป็นของสถานที่พิมพ์ไหน หรือบ่อยพวกเราก็อ่านหนังสือแปลโดยจำไม่ได้ว่าคนใดเป็นผู้แปลด้วย)


แน่ๆว่าเลนอยากชื่อสถานที่พิมพ์ที่ง่ายแล้วก็เป็นมิตรสำหรับผู้บริโภคที่จะจับหนังสือปกอ่อนแบบไม่ต้องคิดมาก สำหรับในการสัมมนาเพื่อคิดหาชื่อสถานที่พิมพ์ที่อยากได้ เรื่องมันก็แสนง่ายมากเพียงแค่เสียงตวาดจากใครบางคนว่า “ชื่อเพนกวินล่ะเป็นยังไง"


ทุกคนถูกใจชื่อนี้ และก็เอ็ดเวิร์ด ยัง ดีไซน์เนอร์โลโก้ที่เปลี่ยนมาเป็นเลิศในโลโก้ที่น่ารักน่าเอ็นดูที่สุดชั่วนิจนิรันดร์ ก็ถูกส่งไปสเก็ตช์ภาพเพนกวินที่สวนสัตว์ลอนดอน

DM1294-13-19-1-08.jpg

ผ่านมาราว 80 ปี โลโก้เพนกวินได้รับการเปลี่ยนแปลงหลายหน แต่ว่าแม้คุณทดลองมอง มันก็มิได้แปรไปเท่าไรนัก


ไม่รู้จักว่าเพราะว่ามันคลาสสิก พวกเราก็เลยมีความเห็นว่าหนังสือเพนกวินนั้นงามหรือไม่แม้กระนั้นถ้าเกิดย้อนเวลากลับไปเวลาที่พวกเขาวางแบบหนังสือ ความสวยสดงดงามกลับไม่ใช่เป้าประสงค์หลักของเพนกวิน


เวลานี้ หนังสือที่มีขายในตลาดจำนวนมาก จะวางแบบปกโดยใช้ภาพอธิบายเพื่อเชื่อมโยงกับรายละเอียด และก็ชอบพิมพ์โดยใช้สีทองคำ แม้กระนั้นเลนอยากให้ปกหนังสือเพนกวินเป็นงานดีไซน์ที่เน้นย้ำความเกี่ยวเนื่อง มากยิ่งกว่าจะเห็นว่าปกหนังสือเป็นงานศิลปะเป็นชิ้นๆ


รวมทั้งเขากล้าที่จะทดสอบโดยใช้การวางแบบกริดรวมทั้งตัวหนังสือ ufabet ที่ท้ายที่สุดเปลี่ยนมาเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่พิมพ์จนกระทั่งวันนี้


บอกใหม่ก็คือ มันเป็นความเจตนาของเลน สำหรับในการทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับการมองหนังสือแต่ละเล่มเป็นอิสระจากกัน อย่างที่มองเห็นจากตลาดหนังสือเวลานี้ แต่ว่าเขาใช้ปกหนังสือเป็นตัวโปรโมตสถานที่พิมพ์ต่างหาก


แม้กระนั้นถ้าหากจะถามคำถามว่าเพนกวินใช้อะไรบ้างในการผลิตความต่าง คำตอบก็น่าจะเป็นสี ที่ประยุกต์ใช้สำหรับเพื่อการแยกหมวดหนังสือของสถานที่พิมพ์


ดังเช่น สีส้มสำหรับวรรณกรรม สีเขียวสำหรับนิยายอาชญากรรม สีน้ำเงินสำหรับอัตประวัติ สีม่วงสำหรับความเรียง สีแดงสำหรับบทละคร และก็สีเหลืองสำหรับหมวดจิปาถะฯลฯ


เลนไม่เคยหยุดความเป็นจริงเป็นจังสำหรับการวางแบบปกหนังสือเพนกวิน เขาคลำหาดีไซน์เนอร์ชั้นยอดเยี่ยมมาวางฟอร์แมตให้กับหนังสือของเพนกวิน และก็ถึงกับเดินทางไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อว่าจ้างดีไซน์เนอร์ตัวหนังสือระดับตำนานอย่างยาน ชิโชลด์ (Jan Tschichold) มาเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแบบให้กับสถานที่พิมพ์

ca6259b885cd6b4cc0ef8048e2205689.jpg

The 80 Years

แต่ว่าใช่ว่าเพนกวินจะไม่มีระยะเวลาเสื่อมถอย


ภายหลังจากเลนเสียชีวิตในปี 1970 เพนกวินไม่เพียงแค่ขาดแม่งาน แม้กระนั้นปรัชญาของสถานที่พิมพ์ก็ดูเหมือนจะคลอนแคลน


พร้อมด้วยการจากไปของผู้จัดตั้ง ทศวรรษ 1970 นับว่าเป็นระยะเวลาทรุดโทรมของอุตสาหกรรมหนังสือในสหราชอาณาจักร สถานที่พิมพ์เยอะๆประสบเจอกับปัญหาทางด้านการเงิน


เพนกวินเองก็ไม่มีข้องดเว้น เมื่อการจัดพิมพ์รายละเอียดประสิทธิภาพเริ่มไม่ตลอด ufabet และก็การออกแบบซึ่งเคยเป็นความกล้าแกร่งเปลี่ยนเป็นการตำหนิดอยู่กับที่รวมทั้งล้าหลังในวันที่ทุกสถานที่พิมพ์จะต้องปรับนิสัยครั้งใหญ่


ในปีเดียวกับที่เลนเสียชีวิต เพนกวินร่วมเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของเพียร์สันกลุ่ม หนึ่งในกรุ๊ปธุรกิจพิมพ์และก็บริการด้านการศึกษาเรียนรู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ในตอนนี้ เพียร์สันกลุ่มมีกรุ๊ปธุรกิจหลัก 3 กรุ๊ป ยกตัวอย่างเช่น เพนกวินกลุ่ม ไฟเนียนเชียลไทม์สกลุ่มและก็เพียร์สันที่ย้ำการจัดพิมพ์หนังสือเรียนรวมทั้งบทความด้านวิชาการ)


เมื่ออยู่ใต้ร่มเพียร์สันกลุ่ม เพนกวินซึ่งยิ่งใหญ่ในตลาดหนังสือปกอ่อน ก็เลยจะต้องขยายการพิมพ์หนังสือไปสู่ตลาดหนังสือปกแข็งด้วย


ในปี 2013 เพนกวินกลุ่ม (ภายใต้เพียร์สันกลุ่ม) ควบรวมกับแรนดอมเฮ้าส์ของอเมริกา(บริษัทแม่เป็นธุรกิจชนชาติเยอรมัน) แปลงเป็นเพนกวินแรนดอมเฮ้าส์ในตอนนี้


เรื่องน่าดึงดูดส่วนตัวเราเดี๋ยวนี้บางทีอาจเป็น “จุดหวนกลับ" สำคัญที่มาถึงในศตวรรษใหม่ นอกเหนือจากการกลับมาได้รับความนิยมของงานวางแบบปกเพนกวิน ที่นับว่าเป็นความคลาสสิก (สวนกับความแปลกใหม่ในวันที่จัดตั้ง) สิ่งที่เลนคงจะไม่คาดคิดว่ามันจะกำเนิดก็คือ ตลาดที่กลับมาแบ่งกลุ่มระหว่างหนังสือราคาเข้าถึงได้ กับหนังสือราคาสูงที่มีไว้เพื่อการสั่งสม


แต่ว่าโน่นก็เข้าทางเพนกวินในตอนนี้ ในฐานะธุรกิจพิมพ์หนังสือยักษ์ใหญ่ ufabet ที่มีบริษัทลูกมากมายก่ายกองเป็นแขนขาที่เอื้อมไปพบทุกตลาดได้สุดท้าย


โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดที่เผลอไผลในความคลาสสิกของเพนกวินนั่นแหละ


Did you know?

  • ในเวลาเพียง 10 เดือนนับตั้งแต่วันเปิดสถานที่พิมพ์ในกรกฎาคม 1935 เพนกวินพิมพ์หนังสือสูงถึง 1,000,000 เล่ม (ข้อมูลที่ได้รับมาจากวิกิพีเดีย)


  • โรงเก็บของเก็บหนังสือที่แรกของสถานที่พิมพ์เป็นโบสถ์ที่มีชื่อว่าเมอร์ริลล์ ลินช์ (Merrill Lynch)


  • การตัดสินใจพิมพ์วรรณกรรม Lady Chatterley’s Lover ในปี 1960 สร้างความตกอกตกใจให้แก่วงการหนังสืออังกฤษเป็นอย่างยิ่ง แล้วก็เพนกวินจำต้องไปสู่การพินิจพิเคราะห์คดีภายใต้ข้อบังคับเกี่ยวกับงานเอกสารอนาจารของสหราชอาณาจักร แม้กระนั้นนั่นก็คือหนังสือที่มีนักอ่านต่อคิวซื้อกันอย่างล้นหลาม โดยสถานที่พิมพ์ขายหนังสือดังกล่าวมาแล้วข้างต้นปริมาณ 2 ล้านเล่มหมดด้านใน 6 อาทิตย์


  • หนังสือเล่มแรกที่พิมพ์ภายใต้แบรนด์ Penguin Classics ก็คือ The Odyssey ของโฮเมอร์


  • ในปี 1967 ก่อนที่จะอัลเลน เลน จะเสียชีวิตไม่นาน เขาได้เริ่มพิมพ์หนังสือปกแข็งในชื่อของเขาเอง (Allen Lane) โดยเน้นย้ำการจัดพิมพ์หนังสือที่ไม่ใช่วรรณกรรมและก็มีรายละเอียดออกจะหนัก ในตอนนี้สถานที่พิมพ์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วอยู่ภายใต้ Penguin Press รวมทั้งหันกลับมาพิมพ์หนังสือรายละเอียดมุ่งมั่นในต้นแบบหนังสือปกอ่อนสีส้มเพื่อสะท้อนงานวางแบบออริจินัล รวมทั้งปรัชญาการนำรายละเอียดชั้นเยี่ยมที่สุดไปสู่ผู้คนในวงกว้างของเพนกวิน (ข้อมูลที่ได้มาจากเว็บ Penguin Random House)


  • นอกเหนือจากเลนจะได้รับพระราชทานขั้นเป็นท่านเซอร์ ชื่อของเขายังได้รับการจารึกไว้บน “แผ่นจารึกสีส้ม" ที่ติดอยู่ในสถานีรถไฟ Exeter St David ในกรุงลอนดอน อันเป็นสถานีรถไฟที่เขาเกิดไอเดียสำหรับเพื่อการพิมพ์หนังสือคุณภาพดี ufabet ราคาไม่แพง ในขนาดนำเอาสบายนั่นเอง
  • บนแผ่นจารึกสีส้มนั้น มีโลโก้สถานที่พิมพ์เพนกวินอยู่ข้างบนสุด

7H4A8919.JPG